วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

หนูกัดเหล็ก


หนูกัดเหล็ก
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว    มีเศรษฐีคนหนึ่งมีลูกชายเป็นคนไม่รักดี    ได้แต่ใช้จ่ายทรัพย์เที่ยว  กิน  เล่น   เลี้ยงเพื่อนฝูง   ไม่นึกทำมาหากิน    พ่อแม่จะว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรก็ไม่เชื่อฟัง
ในที่สุดเศรษฐีก็ตรอมใจตาย    แต่ก่อนตายได้เอาเงินกับทองใส่ตุ่มอย่างละตุ่มฝังไว้    และด้วยความดีที่ได้กระทำมา    ส่งผลให้เศรษฐีไปเกิดเป็นเทวดา
ฝ่ายลูกเศรษฐีเมื่อพ่อแม่ตายแล้วก็ยิ่งกำเริบ    ใช้เงินเลี้ยงเพื่อนเที่ยวเตร่เสเพล    ไม่นานเงินก็หมด     เพื่อนฝูงที่เคยล้อมหน้าล้อมหลังก็หายหน้าไปทีละคน
อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนชวนไปกินเลี้ยงกันตามเคย     โดยสั่งลูกเศรษฐีตกยากว่าถ้าคิดจะไปกินเลี้ยง     ก็ให้เอาไก่ไปร่วมในการกินเลี้ยงด้วยหนึ่งตัวลูกเศรษฐีอยากกินเลี้ยงมาก    ถึงแม้จะไม่มีเงินแล้ว     ก็ยังขวนขวายหาไก่
ได้ตัวหนึ่ง    จึงจัดการลวกน้ำร้อนถอนขน     แล้วผูกห่อใบตองเตรียมที่จะไปร่วมงานกินเลี้ยง
ครั้นเดินมาตามทาง    เพราะความเหนื่อยจึงแวะพักใต้ต้นไม้ข้างทางแล้วม่อยหลับไป    บังเอิญมีอีกาตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้นั้น    ได้กลิ่นเนื้อโชยมาจากใบตอง    จึงบินโฉบลงมาคาบห่อใบตองไป เขาจึงต้องไปงานกินเลี้ยงมือเปล่า          พอถึงบ้านเพื่อนที่นัดกินเลี้ยงก็เล่าให้เพื่อนฟัง     แต่ไม่มีใครเชื่อในคำพูดของเขาเลยต่างคิดว่าเขาคงไม่มีปัญญาหาไก่มา     จึงกุเรื่องแก้เก้อ     แถมยังพูดจาเยาะเย้ยถากถางว่าไม่มีปัญญาหาไก่มา     แล้วยังไปโทษอีกาอีก
ลูกเศรษฐีทั้งเจ็บทั้งอายตัดสินใจไม่ร่วมวงกินเลี้ยงด้วย    รีบเดินทางกลับบ้านเมื่อถึงบ้านแล้วก็ยังน้อยใจไม่หาย    นึกถึงความหลังที่ตนมั่งมีเงินทอง    ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง  เสียใจกินไม่ได้   นอนไม่หลับ   ร่างกายก็ผ่ายผอมลง
ฝ่ายเทวดาพ่อแม่เห็นอาการของลูกก็อดสงสารเสียมิได้   จึงมาเข้าฝันลูกว่า
"นั่นแหละลูกเอ๋ย   เมื่อพ่อแม่ยังอยู่ก็ได้สอนเจ้านักหนาเรื่องการใช้เงินทองเมื่อยามลำบากยากจน    ใครเขาจะมานับถือ    พูดจริงก็เป็นหลอกไปได้ ขอให้เจ้ารู้สึกตัวและทำตัวเสียใหม่     พ่อแม่จะช่วย"       ในฝันนั้นเองลูกเศรษฐีก็คิดได้     จึงสัญญากับพ่อแม่ว่า     ต่อไปจะเลิกความประพฤติเดิมจะตั้งใจทำมาหากิน     เลี้ยงตัวให้มีเงินพอ    จะไม่ให้ใครมาดูถูกได้อีกต่อไป
เมื่อเทวดาพ่อแม่ได้รับคำสัญญาจากลูกเช่นนั้นก็พอใจยิ่งนัก     เมื่อลูกสัญญาว่าจะกลับตัว
เป็นคนดีจึงได้บอกที่ซ่อนตุ่มเงินและตุ่มทองให้ในฝันนั้นเอ'
พอตื่นขึ้นมาลูกเศรษฐีก็รีบไปขุดหาตุ่มเงินตุ่มทอง     ก็พบจริงตามฝัน จึงนำเงินในตุ่มมาทำทุนตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน    ไม่นานก็กลับฟื้นตัวพอมีฐานะขึ้นอีก    เพื่อนที่เคยหนีหาย    ก็เริ่มกลับมาคบหาเพิ่มขึ้นทุกวัน
ลูกเศรษฐียังจำวันที่เพื่อนฝูงเยาะเย้ยได้ไม่ลืม    วันหนึ่งลูกเศรษฐีเห็นได้โอกาสจึงชวนเพื่อนมากินเลี้ยงกันอีกเหมือนเมื่อยังร่ำรวยหนก่อน    เพื่อนฝูงต่างก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตาขณะที่กินเลี้ยงอย่างครึกครื้นเฮฮาอยู่นั้น    ลูกเศรษฐีได้นำมีดเหี้ยนๆ    เล่มหนึ่งมาให้เพื่อนดูพลางพูดขึ้นว่า
"อัศจรรย์จริงๆ    มีดเล่มนี้เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ   แท้ๆ    ทิ้งไว้คืนเดียวหนูมากัดเสียจนเหี้ยนหมดเหลือเท่านี้เอง"
เพื่อนฝูงทั้งหลายเมื่อได้ยินก็รับคำเชื่อตามคำพูด    บางคนก็ประสมโรงพูดว่า"จริงเหมือนเพื่อนว่าหนูมันร้ายนัก    มีดของเราก็เคยโดนเหมือนกัน    เหี้ยนเหมือนอย่างนี้ไม่มีผิด"เพื่อนคนอื่นก็พูดว่า  "ใช่ๆ"   คนละคำสองคำ         
ลูกเศรษฐีเมื่อได้ยินดังนั้น ก็คิดได้ว่า
"ยามเมื่อเรายากจนคนดูถูก ถ้อยคำที่พูดไม่มีน้ำหนัก    ถึงพูดความจริงก็ยังไม่มีคนเชื่อ
แต่เมื่อยามมั่งมีเงินทอง    จะพูดอย่างไรจริงหรือเท็จไม่สำคัญ    คนย่อมยอมรับเชื่อถือ"